วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

How To : Photoscape (โปรแกรมแต่งรูปสุดเจ๋ง)

วันนี้จะแนะนำโปรแกรมที่น่าใช้ สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ชอบแต่งรูปใส่ในไดอารี่ออนไลน์เป็นชีวิตจิตใจ ไม่ต้องพึ่งโฟโต้ช๊อปขาใหญ่เค้า.. โปรแกรมนี้ชื่อ PhotoScape นะคะ.. เอามาจากครูหมูแห่งบ้าน AF เอ้ยยยยย สอนวิธีการใช้งานโดย มู๋ต๋า ค่ะ (พี่ก๊อปมาทั้งยวงเลยฮ่ะ)
งานนี้ ก็ขอขอบใจนายแบบหนุ่มน้อยสุดหล่อนามว่า นู๋วิกเตอร์ ด้วยนะจ๊ะ
ครู Muu~TaH กรุณาแนะนำการใช้งานไว้ดังเน้... 
PhotoScape มีดีที่ใช้ง่าย แถมยัง Mix รูปหลายๆ รูป เอาไว้ได้ในเฟรมเดียว , รีไซส์ก็ได้ แต่งแสงแต่งสี, ทำซีเปีย, ทำขาวดำ, แคปหน้าจอแบบไฮโซ เลือกได้ว่า จะแคปแบบเต็มเฟรม หรือว่าแบบเฉพาะหน้าต่าง แบบไม่ติด TaskBar ด้วย
รวมไปถึงทั้ง Rename เป็นไฟล์ที่เป็น Raw File ก็ได้ด้วย , แถมเปลี่ยนจาก Raw ให้เป็น JPG ก็ยังได้ด้วยนะ , แถมทำภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย เหมือน imageready โอวว พระเจ้าจอร์ช  โปรแกรมนี้ทำได้หมดเลย สารพัดประโยชน์มากมาย แถมไฟล์ยังเล็กแค่ 10 MB เอง ไม่หนักเครื่อง โหลดไวปุ๊บปั๊บ ^^
พอดาวโหลดแล้วติดตั้งเรียบร้อย เราก็มาเริ่มรู้จักโปรแกรม PhotoScape กันเลย
ไอค่อนหน้าจอเป็นแบบนี้นะก๊ะ ^^
คลิกปุปเราจะเจอแบบนี้
แต่จะทำ How To แค่ไม่กี่เมนูนะคะ
เพราะว่าเหนื่อยโฮกกกก เวลาทำ How To
ทั้งต้องแคพ ทั้งต้องเขียนคำอธิบาย
แต่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
พยายามทำให้เข้าใจง่ายและละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้จ้ะ ^^
ไม่อยากจะให้แค่ดูรูปเฉยๆ นะคะ
อยากให้อ่านคำอธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยจ้า ^^
โปรแกรม Edit รูป แต่งรูปโดยทั่วไป
รวมรูปหลายๆ รูปไว้ใน Page เดียว
ไม่ต้องพึ่งใครมาแคพหน้าจอให้อีกแล้ว!!!!
วันนี้จะเขียนเกี่ยวกับเมนู Editor ก่อนนะคะ
นั่นคือ รีไซส์,แต่งแสง,แต่งสี,ทำลูกเล่นกับพื้นผิวภาพ โอยสารพัด!!

แนะนำเครื่องมือ ด้านขวามือริมหน้าจอในโปรแกรมกันก่อนค่ะ
คร่าวๆ ก็ตามนี้
ถ้าอ่านเข้าใจแล้ว ก็ไปลุยกันเลย!!!!!
เลือกคลิกที่ Editor นะคะ
ตอนนี้เราอยู่ในโหมด Editor กันแล้ว
เลือกรูปที่เราจะเอามาแต่ง จากโฟลเดอร์ที่แสดงทางซ้ายมือได้เลยค่ะ
ในกรณีที่ภาพที่เราเปิดมาเป็นแนวนอน
หรือว่ากลับหัวอะไรแบบนี้ ให้เราใช้ Rotate คือกลับหัวภาพให้อยู่ในสภาพปกติก่อนค่ะ ^^
แถบสถานะจะบอกขนาดไซส์ ของรูป Original ที่เราเปิดมาค่ะ
คลิกที่ลูกศรตรงปุ่ม Resize เพื่อที่จะเลือกขนาดรูปภาพค่ะ
ตามตัวอย่าง จะเอารูปมาใส่ในไดอารี่ที่ Yenta4 ที่มีขนาด Body ของเนื้อหาไดอารี่
ขนาด 515px เพราะฉนั้นเลยเลือกรีไซส์ที่ความกว้าง 400px ค่ะ
พอคลิกรีไซส์ปุ๊ป แถบสถานะจะบอกเราทันทีว่า ขนาดของรูปภาพของเราคือ 300x400 px
นี่คือรูปที่รีไซส์เฉยๆ ยังไม่ได้แต่งค่ะ
แค่นี้เอง รีไซส์ จบไปแล้ว ง่ายมากๆๆๆ เลยใช่มั้ยยยย
---------------------------------------------------------------------------------------
ต่อไป เราจะมาเริ่มแต่งรูปกันนิดๆ หน่อยๆ พอสังเขปนะคะ
อยากให้ภาพสว่างขึ้นอีกนิด
ก็ไปที่ Bright,Color แล้วเลือก Brighten เลยค่ะ
อยากจะสว่างแค่ไหนก็เอาเลยยย สว่างน้อย กลาง มาก ตามลำดับไปค่ะ
Darken คือปรับให้มืดลงค่ะ
ส่วน Deepen คือให้รายละเอียดของภาพคมชัดขึ้นอีกนิดหน่อยค่ะ
อันนี้ปรับให้สว่างหน่อยนึงแล้ว ^^
ปรับให้ซอฟท์ เหมือนแบลอๆ
อันนี้แอบเรียก(คนเดียว) ว่า เป็น "ภาพในฝัน"
เหมือนใส่ Filter Soft ยังไงยังงั้นเลย
ตัวนี้เลือกแค่กลางๆ ก็พอค่ะ แต่ถ้าชอบวิ้งมากก็เอา High ไปเลยยย
พอแต่งจนพอใจ วิ้งมาก วิ้งน้อย จนพอใจแล้ว
เราก็เอารูปมาใส่กรอบน่ารักๆ กันเลย
เลือกกรอบจาก Frame ที่มีให้เลือกล้านแปดแสนแบบ ฮ่าฮ่า
พอเราเลือกกรอบที่ชอบได้แล้ว
รูปเราจะมีไซส์ใหญ่กว่าปกตินิดหน่อยค่ะ
คือเราตั้งสูงไว้ 400 มันก็จะสูงกว่านั้น
รีไซส์อีกทีเพื่อป้องกันธีมแหกกระจุย
จะได้แบบนี้!!!!!!!!!
เห็นไหมง่ายนิดเดียวเอง
แค่นี้ก็ได้กรอบเก๋ๆ แล้ว ^^
---------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้เรามาเพิ่มลูกเล่นกัน
เช่น ใส่คำพูด,ใส่ตัวตุ๊กตาน่ารักๆ
คลิกเลือกแถบจาก Home มาเป็น Object ค่ะ
คลิกตรงไอค่อยรูปภูเขาเพื่อแทรกรูปลงไป
รูปจะมีมาให้ในโปรแกรมด้วยค่ะ ส่นใหญ่ก็จะใช้รูปการ์ตูนนี่แหละ
กวนดี และเหมาะกับวัย(กลับ) ฮ่าๆๆๆ
จะขึ้นไอค่อนการ์ตูนมากมายรอเราเอามายำ ยำ ยำ ยำ ค่ะ ^^
พอเลือกรูปที่ต้องการได้แล้ววววววววววววว
ก็จะเป็นเช่นนี้ค่ะ
คำอธิบายอยู่ในรูปค่ะ ^^
เราสามารถ หมุน วาง ย้าย ได้ง่ายมากๆ เลยจ้า
อยากย้ายไปวางตรงที่ชอบ ก็ คลิกแล้วลากไปวางเลย ง่ายนิดเดียว
จบเรื่องแทรกรูปการ์ตูนน่ารักๆ!!
ง่ายมั้ยยยยยยยยยยยยยย
ถ้าเป็นโฟโต้ชอบจะไม่ง่ายแบบนี้
อธิบายกันยาวยืดดดดดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
---------------------------------------------------------------------------------------
ต่อไปเป็นการ เขียนข้อความลงไปในภาพของเรา
คลิกที่เครื่องมือรูปตัว T แล้วจะขึ้นมาเป็นแบบนี้ค่ะ
เราก็พิมพ์ข้อความ,เลือกสี ,เปลี่ยนฟ้อนต์ ได้จากตรงนี้เลยค่ะ
สามารถย้าย และหมุน ได้เหมือนกับการแทรกรูปภาพทุกประการค่ะ
พอใจแล้วก็ Save เลย!!!
เลือกคุณภาพของรูปที่ต้องการเซฟค่ะ
เรียบร้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

อุปกรณ์นำทางหรือติดตาม

GPS ใหม่ล่าสุดจาก GARMIN รุ่น nüvi 215W
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการระบบภูมิสารสนเทศแบบครบวงจร หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี ได้ เปิดตัวเครื่องนำทาง GPS ใหม่ล่าสุดจาก GARMIN รุ่น nüvi 215W GPS อัจฉริยะที่เพรียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่จะทำให้การเดินทางไม่ว่าในเมืองหรือระหว่างท่องเที่ยวของคุณมีสีสันมากขึ้น ด้วยภาพจำลองแยกเสมือนจริง หรือ Junction View ฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุดของ GARMIN ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องสับสนกับการเปลี่ยนเลนกระทันหันอีกต่อไป มี Bluetooth ช่วยในการติดต่อของคุณไม่ติดขัด โดยใช้ nüvi 215W แทนอุปกรณ์ hand free ของคุณสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ได้อีกด้วย nüvi 215W มาพร้อมเมนูภาษาไทย ใช้งานง่าย และ แผนที่เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ ESRI Thailand Street Map (TSM) 9.0 ที่มี จุดสนใจมากกว่า 500,000 จุดทั่วประเทศ เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, สนามกอล์ฟ พร้อมทั้งสามารถบันทึกตำแหน่งส่วนตัวได้ 1,000 จุดอีกด้วย

GARMIN รุ่น nüvi 215W จำหน่ายใน ราคา 21,900 บาท โปรโมชั่นพิเศษช่วงแนะนำสินค้า ซื้อ nüvi 215W วันนี้ รับฟรีทันที! บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน ที่จะดูแลคุณนานถึง 1 ปี มูลค่า 2,300 บาท

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การติดตั้งแท่งหมึกเครื่องอิงค์เจท

การติดตั้ง Tank EPSON CX5500







หลังจากติดตั้งแล้วทดลองเปิดเครื่อง ถ้าปกติจะมีไฟสีเขียวติดเพียงดวงเดียว หามีไฟสีส้มติดขึ้นในตำแหน่งรูปหยดหมึกส่วนใหญ่จะเกิดจากค่าของตลับหมึกเปลี่ยนไปให้ทำการ




การเติมหมึกLaser jet หรือการทำตลับหมึก Remanu Laser jet
จุดประสงค์หลักของการทำธุรกิจ Recycle-Toner cartridge การเติมหมึกLaser jet หรือการทำตลับหมึก Remanu Laser jet คือการนำทรัพยากรธรรมชาติกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยผ่านกระบวน การผลิตซ้ำ
จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ถึง 60-70% ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก
การ Recycle-Toner cartridge คือการนำตลับหมึก Laser jet ที่ใช้หมดแล้วนำกับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ด้วยวิธีการเติมหมึกเข้าไปใหม่โดยใช้หลักการ เดียวกันกับกระบวนการผลิตตลับหมึก Original ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าใช้งานได้ 100%
12a-02การเติมหมึก ทางร้านจะมีเครื่องปริ้นเตอร์ Laser jet ใว้ test ( สำหรับบางรุ่นที่ลูกค้าใช้เป็นส่วนใหญ่ ) เพื่อทำการทดสอบการใช้งานว่าผ่านตามมาตรฐานจากทางร้าน? และเพื่อให้ลูกค้า มั่นใจได้ว่าตลับหมึกใช้งานได้จริง เมื่อเติมหมึกเสร็จทางร้านจะติด warranty รับประกันให้ลูกค้า ทางร้านจะรับประกันตลับหมึกที่เกิดจากการรั่วออกมาและต้องเกิดจากการใช้งาน จริง ทางร้านยินดีแก้ไขให้ทันที โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ( ยกเว้น เกิดจากการเสื่อมสภาพของอะไหล่บางตัว ซึ่งต้องทำการเปลี่ยน อาทิ ตัว Drum ,ลูกยาง ซึ่งทางร้านมีอะไหล่ขายในราคาประหยัด )
อาการเสียที่พบบ่อยอันเกิดจากการเสื่อมสภาพตามปกติของตลับหมึก คือตัว Drum อาการเสียคือเวลาปริ้น ออกมาจะมีแถบดำด้านข้าง สาเหตุที่ตัว Drum ในตลับหมึกเสียเร็ว ขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้า เช่น สั่งปริ้นงานต่อเนื่อง ติดต่อกันหลายชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพักเครื่อง ทำให้เกิดความร้อนสูง Drumจึงมีโอกาสเสียเร็วกว่าปกติ หรืออาจเสื่อมไปตามสภาพ เพราะตัว Drum ถือว่าเป็นอะไหล่สิ้นแปลือง Drum 1 ตัว จะใช้งานได้ประมาณ 2 รอบ เมื่อนับจากการเติม หรือ อาจจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานนั่นเอง
การเก็บรักษาตลับหมึก Laser Jet เมื่อใช้หมด ควรเก็บไว้ในกล่องอย่าให้โดนแสง ควรเก็บไว้อย่างมิดชิด จะทำให้ยืดอายุการใช้งานของอะไหล่บางตัวในตลับหมึก เมื่อนำกลับมาเติมใหม่อีกครั้ง

หลักการทำงานของเครื่องปริ้นเตอร์ Laser Jet? เป็นเครื่องปริ้นเตอร์
laser-printer-laser-computer2care
 ชนิดใช้ผงหมึก (Toner) ทำงานร่วมพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnet) และพลังงานไฟฟ้าสถิตย์(Electrostatic) ซึ่งทำงานโดยลูกกลิ้งที่มีพลังงานแม่เหล็ก (Magnetic Roller ) จะดูดผงหมึก (Toner) ให้ติดกับตัวลูกกลิ้ง และต่อจากนั้น ผงหมึก (Toner) ก็จะถูกรีดให้ไปติดกับตัวลูกกลิ้ง ( OPC DRUM ) ที่มีพลังงานไฟฟ้าสถิตย์อยู่ ซึ่งได้รับสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และให้ลูกกลิ้ง( OPC DRUM ) รีดผงหมึก (Toner) ให้ติดกับกระดาษตามภาพ หรือตัวอักษรที่ต้องการ


หมึก...เติมสำคัญแค่ไหน ???
หมึก เติมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด แต่คนส่วนมากกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญ หมึกเติมที่ดีจะช่วยให้หัวพิมพ์ไม่อุดตัน และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปริ้นเตอร์ให้ใช้งานไปได้นาน การซื้อหมึกเติมที่คุณภาพต่ำมาเติม จริงอยู่ที่ราคาอาจจะถูก
แต่เติมแล้วหัวพิมพ์ตัน ถ้าหัวพิมพ์ตันไม่สามารถล้างออกได้ ต้องได้เปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่ ซึ่งราคาแพงกว่าหมึกเติมหลายเท่าตัว มันไม่คุ้มครับ หมึกเกรดต่ำราคาจะอยู่ ราวๆ 40-80 บาท ถ้าเอามาเติมแล้วหัวพิมพ์ตัน ต้องได้ซื้อหัวพิมพ์ใหม่ราคา ราวๆ 600-900 บาท เมื่อเทียบกับการซื้อหมึกเกรดดีราคาแพงกว่าอีกนิดหน่อย มันคุ้มกว่าที่จะซื้อหมึกถูกๆ แล้วเสียเงินค้าซื้อหัวพิมพ์ใหม่ราคาแพงกว่าหลายเท่า

หมึกจะมีส่วนผลสมทั้ง หัวเชื้อน้ำและ หัวเชื้อผง ถ้าเป็นผง คือเค้าจะเอาผงสีมาละลายในน้ำ
ม่ใช่น้ำเปล่านะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าสูตรเค้ามีอะไร แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นผงเหมือน ผงสีผสมอาหาร ดังนั้น หากผงที่เค้านำมาผสม มีขนาดเม็ดที่ใหญ่ เมื่อไปใส่หัวพิมพ์ ซึ่งมีขนาดเป็น นาโน เมตร 1 เมตร = 1000000000 นาโนเมตร? เอา เส้นยาว 1 เมตรหารด้วย พันล้าน เท่ากับ 1 รูของหัวพิมพ์ คิดดูครับ ว่ารูของหัวพิมพ์แต่ละรูมันเล็กขนาดไหน? ถ้าผงที่นำมาผลิตน้ำหมึกมันเม็ดใหญ่ มันก็จะไปอุดตันหัวพิมพ์ เทียบง่ายๆ เหมือนแป้งทำขนม กับแพงทาหน้า ขนาดของเม็ด มันจะต่างกันครับ แป้งทาหน้าจะละเอียดมากกว่าหลายเท่า แต่ก็ยังไม่สามารถเอามาทำผงน้ำหมึกได้ ถ้าหมึกเกรดต่ำ เครื่องจักรที่ผลิตก็จะราคาถูก เทคโนโลยีผลิตไม่ได้ขนาดเท่าที่ต้องการมันถึงทำให้ราคาถูก การที่หมึกเติมเค้าทำราคาถูกๆได้เพราะอะไร เพราะเกรดวัสดุที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมคุณภาพต่ำ ราคาถึงได้ถูก เมื่อต้นทุนเค้าถูก เค้าถึงสามารถขายสินค้าของเค้าราคาถูกได้ คุณลองนึกตามหลักความเป็นจริงครับ เช่น

สมมุติคุณตั้งโรงงานผลิตสินค้าซักอย่างขาย สมมุติเป็นน้ำปลาแล้วกัน คุณซื้อปลาจากชาวประมงกิโลละ 7 บาท แล้วก็ซื้อเลือทะเลมา กิโลละ 1 บาท แล้วทำการหมักเป็นปีๆ แล้วซื้อขวดมาบรรจุ ราคา 1 บาท? ติดฉลาก 0.5 บาท? ใส่กล่อง เฉลี่ยค่ากล่องต่อขวด? 0.5 บาท รวมราคาต้นทุนทั้งหมด 10 บาท?? คุณก็ต้องขาย 11-13 บาท กว่าจะถึงร้านขายของชำ ต้องบวกค่าขนส่งอีก ถึงมือลูกค้าที่ 18 บาท

คราวนี้มาดูอีกโรงงานนึง? เค้าไปซื้อเกลือมา กิโลละ 1 บาท เช่นกัน แล้วเอามาละลายในน้ำค่าน้ำสมมุติ 0.01 บาท ใส่สีให้เหมือนน้ำปลา 0.02 บาท แล้วบรรจุขวด? ราคา 1 บาท ติดฉลาก ราคา 0.5 บาท ใส่กล่อง เฉลี่ยค่ากล่องต่อขวด? 0.5 บาท? รวมราคาต้นทุน 3.03 บาทต่อขวด คุณก็สามารถขายที่ราคา 4-5 บาท? กว่าจะถึงร้านขายของชำ ต้องบวกค่าขนส่งอีก ถึงมือลูกค้าที่ 7 บาท?

จากโรงงานทั้ง 2 จะเห็นว่า น้ำ ปลาที่ราคา 18 บาท ทำจากปลาแท้ 100% แต่อีกเจ้า เป็นนำใส่เกลือ แต่งสีแต่งกลิ่น ไม่มีส่วนของปลาแม้แต่เปอร์เซ็นต์ ขายที่ราคา 7 บาท แต่จะให้น้ำปลาแท้ 100% มาขายสู้ราคา ที่ 10 บาทก้ไม่ได้เพราะแค่ราคา 10 บาทก็เท่ากับต้นทุนของเค้าแล้ว ดังนั้น ถ้าคุณซื้อน้ำปลาที่ราคา 7 บาท นั้นคือคุณได้น้ำปลาปลอมไปแล้วครับ จงจำไว้ว่า ของถูกและดีไม่มีในโลดครับ
จากตัวอย่างคงพอเข้าใจแล้วใช่มั๊ยครับ ว่าหมึกทำไมราคามันถึงต่างกันได้ ของดีๆราคาจะอยู่ราวๆ 100-250 บาทต่อ 1 ขวด 100ซีซี? แต่ของเกรดต่ำจะอยู่ราคา 40-80 บาทต่อขวด แต่อย่ายึดที่ราคาอย่างเดียวไม่ได้ครับ เพราะพวกที่เอาถูกถูกๆมาขายแพงก็มีครับ เช่นซื้อมา 20 มาขายที่ 100 ก็เป็นไปได้ ความยากของมันคือคุณเลือกซื้อแบรนด์ที่โฆษณาใน ทีวี หรือ นิตยสาร แล้วกันครับ ราคาอาจจะแพงกว่าหน่อย เพราะเค้าต้องมาค่าการตลาด คือค่าลงโฆษณา นั้นเอง แบรนด์ดังๆ ก็จะมี Freejet, Inkman, IT-ink, Easyjet Inkcolor Obok, Mr.ink Leader Compute POP INKTech

ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ยี่ห้อที่กล่าวมาทั้งหมด ผมไม่ได้เชียร์เพราะมีส่วนได้ส่วนเสียกับสินค้ายี่ห้อ ดังที่ได้กล่าวด้านบน
นอกจากแบรนด์ของผมเองเท่านั้น แต่ที่ผมได้กล่าวถึงคือ ผมได้รับความร่วมมือจาก สินค้ายี่ห้อทั้งหมดเหล่านั้น มาเพื่อเป็นตัวอย่างในการทดสอบ และมีอีกหลายยี่ห้อที่ส่งสินค้าตัวอย่างมาแล้ว ผมทดสอบแล้วไม่ค่อยประทับใจ ถึงไม่ได้พูดถึงยี่ห้อเหล่านั้น และยี่ห้ออื่นๆในตลาดอีกมากมายที่ผมไม่ได้ทดสอบ แต่ไม่ใช่จะไม่ดีนะครับ ยังไงคุณก็เลือกใช้เอาแล้วกันครับ ทดสอบเองเลยจะได้รู้ครับ แต่จากยี่ห้อที่ผมแนะนำ ทั้งหมดใช้ได้เลยครับ ไม่ต้องคิดมากด้วย เพราะผมได้ทดสอบทั้งหมดแล้ว ว่า OK แน่นอน แต่จากยี่ห้อที่ผมแนะ ผมชอบจริงๆอยู่แค่ 4 ยี่ห้อ ไม่นับยี่ห้อของร้านผมนะครับ INK-JET และ INK-SHOP เดี๋ยว จะหาว่าผมลำเอียง เชียร์ของตัวเอง ผมเป็นกลางเสมอครับ ดีก็ว่าดี ไม่ดีก็ว่าไม่ดี ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ยี่ห้อที่ผมทดสอบแล้ว ใช้ได้ดีมาก คือ Freejet? Easyjet Leader Inkcolor ทดสอบดูด้วยตัวเองนะครับแล้วจะรู้ อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่เราไม่ได้เห็นด้วยตา

ห้องซ่อม

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

asus

เปิดกล่อง ASUS P552W รุ่นใหม่ล่าสุดกำลังจะเข้าไทยแล้ว

วันนี้ขอเอาภาพแบบเต็มอิ่มของบเครื่อง PDA Phone ตัวล่าสุด ASUS P552W มาฝากกันครับ เครื่องรุ่นนี้ ผมเองได้เห็นตัวจริงมาแล้วจากในงาน ComWorld 2008 ซึ่งเครื่องรุ่นนี้เค้ามีนำตัวเครื่อง Demo ออกมาวางโชว์ยั่วน้ำลายให้ชมกันในงานด้วย ซึ่งเท่าที่ไปยืนดูเครื่องตัวจริง ผมว่าหน้าตามันดูสวยกว่าในภาพเยอะเลย วันนี้เราลองไปดูภาพชัดๆของเครื่องตัวนี้กันก่อนดีกว่า

สำหรับ ASUS ในประเทศไทยเอง ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่คนให้ความนิยมค่อนข้างมาก แต่ในปี 2008 ที่ผ่านมา ASUS จะออ่นกำลังลงไปบ้าง และมีเครื่องป้อนเข้าตลาดน้อยกว่าเครื่องยี่ห้ออื่น แต่สำหรับช่วงปลายปีแบบนี้ ทาง ASUS เองก็เลือกที่จะส่ง ASUS P320 ออกมาชิมลางก่อน และน่าจะตามมาด้วย P552W รุ่นที่เห็นกันในวันนี้ ก่อนที่จะส่งเครื่องรุ่นใหม่ตามออกมาสมทบอีกที ซึ่งเครื่องรุ่น P552W นี้ จริงๆผมมองว่ามันยังเป็นเครื่องระดับกลางๆอยู่ แต่มีการทำงานของ CPU ระดับที่ค่อนข้างสูงมากทีเดียว
Processor : Marvell PXA930 624 MHz คือขุมพลังเครื่องรุ่นนี้ ซึ่งถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว จุดเด่นเหนือคู่แข่งรายอื่นๆนั้น น่าจะเป็นเรื่องของ CPU เพราะเป็นเครื่องระดับกลางที่ให้ CPU มาค่อนข้างสูง ส่วนเรื่อง Bluetooth , WiFi และ GPS กลายเป็นเรื่อง Basic ไปแล้วครับสำหรับเครื่องในช่วงปลายปีแบบนี้ กล้องของบเครื่องรุ่นนี้ยังถือว่าธรรมดา เพราะใช้กล้องความละเอียดที่ สองล้านพิกเซล แต่ไม่มี Auto Focus

สำหรับเครื่องรุ่นนี้ตัวจริงเท่าที่เห็นในงานจะมีสองสีนะครับ คือสีดำและขาว จะบอกว่าสวยทั้งคู่ก็ดูหลายใจไปหน่อย แต่มันก็สวยทั้งคู่จริงๆนั่นแหละ ผมว่างานรุ่นนี้ดูเนี๊ยบกว่ารุ่นที่ผ่านๆมา ซึ่งคาดว่าคงอีกไม่นานนี้จะวางตลาดในเมืองไทยแล้วนะครับแต่ราคาจะเป็นเท่าไรนั้นคงต้องรอดูอีกที



หน้าตาตัวเครื่องรุ่นนี้วันนี้เพิ่งจะได้เห็นภาพเต็มๆสักที ตัวเครื่องรุ่นนี้หน้าตาจะคล้ายๆกับ HTC Touch เหมือนกันนะครับ คือหุ่นจะมนๆตัวเครื่องไม่หนามาก



ขนาดกำลังพอดีมือเลย เป็นเครื่องรุ่นกลางๆของทางค่าย ASUS ในปีนี้ เพราะนอกจากเครื่องรุ่นนี้แล้วยังมีเครื่องรุ่นที่ชื่อว่า Galaxy 7 อีกตัวที่เป็นไม้เด็ด





อุปกรณ์ที่ให้มาในชุดครับ



มาแนวแบบไม่หวือหวาแต่มีสไตล์ การทดสอบในต่างประเทศเค้าว่ามันทำงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว



ปุ่มมุมล่างขวายังคงเป็นปุ่มสำหรับการถ่ายภาพ



ปุ่ม 5 ทิศทางที่กลับมาใช้ในรูปแบบ D PAD อีกครั้งหลังจากเครื่องบางรุ่นของ
ASUS ตัดออกไป หรือทำมาในรูปแบบคล้ายๆ JoyStick
ซึ่งในที่สุดก็ต้องกลับมาใช้ D PAD สะดวกที่สุด



หน้าจอแบบใหม่ที่เรียกว่า soft-touch-coating







การเชื่อมต่อแบบ mini USB



กล้องขนาด 2 ล้านพิกเซล แต่ไม่มี Auto Focus นะครับ