สัมผัสแรก
สำหรับ Asus Zenbook UX31 ที่ได้มีโอกาสนำมารีวิวตอนนี้ เป็น Ultrabook ที่ใช้วัสดุหลักเป็นโลหะอลูนิเมียมที่แข็งแรง พร้อมกับมาตรฐานในการใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD และขนาดหน้าจอความละเอียดระดับ 1600 x 900 พิกเซล โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,099 เหรียญสหรัฐ (คิดเป็นเินไทยก็จะได้สามหมื่นบาทนิดๆ) ที่ในส่วนของดีไซน์จะต้องบอกกันตามตรงว่าค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับ MacBook Air มากๆ แน่นอนว่ารวมไปถึง Ultrabook อีกค่ายอย่าง Acer Aspire S3 เช่นกัน แต่ถ้าเทียบจริงๆ แล้ว จะเห็นได้ว่า Zenbook UX31 จะมีความเฉียบที่มากกว่า และในเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่อง หากเทียบกับ MacBook Air และ Acer Aspire S3 ที่มีน้ำหนัก 1.35 กิโลกรัม ตัวของ Zenbook UX31 จะมีน้ำหนักที่ 1.31 กิโลกรัม หรือพูดง่ายๆ คือเบามากกว่าถึง 0.04 กิโลกรัม แต่สำหรับการใช้งานจริงๆ น้ำหนักที่ต่างเพียงเท่านี้ อาจจะไม่่รู้สึกอะไรมากนัก
ดีไซน์การออกแบบ
ในส่วนของดีไซน์ Asus Zenbook UX31 คงต้องยอมรับว่ามันมีความสวยงามที่ดึงดูดจริงๆ กับวัสดุโลหะอลูนิเมียม ที่ฝาเครื่องได้มีการขัดมันเป็นลักษณะวงกลม จากกึ่งกลางที่มีโลโก้ Asus อยู่ ซึ่งหากเจอกับแสงก็จะมีลวดลายให้เห็นออกมา เพื่อมาดึงดูดคนรอบข้างแบบน่าประทับใจทีเดียว แต่ในแง่ของการใช้งานเปิดฝาเครื่องเหมือนจะลำบากกว่า Acer Aspire S3 นิดหน่อย แต่อีกด้านก็รู้สึกได้ว่าฝาพับมีความแข็งแรงกว่าเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นในกล่องที่มากับเครื่อง ยังมีอุปกรณ์อย่าง USB > Ethernet และ USB > VGA ติดมาให้อีกด้วย
โดยเมื่อเปิดฝาเครื่องขึ้นมา เราจะพบกับตัวหนังสือ “UX31 Series Ultra Slim” ที่ดูแล้วมันรู้สึกแปลกๆ เข้าใจว่าเป็นเน้นย้ำว่าตัว Zenbook UX31 อยู่ก็จริง ไม่ว่าเพื่อความโดดเด่นหรืออะไรก็ตาม แต่ยังไงก็เชื่อว่าถ้ามันดูโล่ง น่าจะมีความสวยงามยิ่งกว่า แถมยังดูแล้วสะอาดอีกด้วย
ต่อมาก็คือในส่วนของช่องต่อ HDMI ที่โดยปกติแล้ว Ultrabook ที่เปิดตัวมาแล้วอย่าง Acer, Lenovo และ Toshiba ก็ล้วนแล้วแต่ช่องต่อ HDMI ขนาดปกติ แต่ไหงตัวของ Zenbook UX31 จาก Asus ตัวนี้ ได้กลายเป็นแบบ mini-HDMI อีกทั้งในส่วนของช่องต่อ VGA ที่มีมาให้ ก็ยังเป็นแบบ mini-VGA ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากเราต้องการใช้งานในการต่อจอนอกเมื่อไหร่ ก็จำเป็นต้องมีตัวแปลงติดตัวไปด้วยอยู่เสมอๆ
สำหรับการเชื่อมต่ออื่นๆ ดูจากรอบๆ ตัวเครื่องก็จะมี USB 2.0 และ Card Reader แบบ SD, MMC รวมไปถึงช่องต่อหูฟัง+ไมค์ ที่อยู่ทางซ้าย ส่วนด้านขวาก็จะเป็น mini-HDMI และ mini-VGA ports ที่สำคัญคือมี USB 3.0 พร้อมสนับสนุนการใช้งานชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์ USB ได้อีกด้วย
คีย์บอร์ดของ Asus Zenbook UX31 เรียกได้ว่ามีความดูดีมากๆ ที่มาดูแล้วมีความแข็งแรงทนทานใช้งานง่ายจากผิวสัมผัสที่ทดลองพิมพ์แล้วให้ความรู้สึกการใช้งานที่ดี ถึงแม้ว่าจะแป้นคีย์บอร์ดเองจะไม่มีความสูงมากนักแต่ก็มีขนาด Full Side ตามมาตรฐาน มาพร้อมดีไซน์ปุ่มที่ดูเฉียบคมกว่าคู่แข่ง นอกเหนือจากนั้นปุ่มที่ใช้งานบ่อยๆ อย่าง Enter และ Backspace ยังมีขนาดที่ใหญ่อยู่พอสมควร ซึ่งเมื่อเทียบกับ Acer Aspire A3 ส่งผลให้มีความรู้ขณะใช้งานที่ดีกว่า แต่อีกเรื่องน่าเสียดายก็คือ Zenbook UX31 ไม่ได้เป็นคีย์บอร์ดแบบมีแสงส่องสว่างขึ้นมาอย่าง MacBook Air แต่อย่างใด
ด้านการใช้งานทัชแพดก็จัดได้ว่าค่อนข้างน่าประทับใจด้วยดีไซน์ที่สวยงามลงตัว พร้อมมีขนาดที่ใหญ่ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าอย่างที่มีใน MacBook Air ปุ่มคลิกซ้ายขวาก็ออกแบบอย่างใช้งานได้ง่าย ด้วยการมีเส้นแบ่งอย่างชัดเจนแสดงเอาไว้อยู่
การแสดงผลและเสียง
ก่อนอื่นต้องบอกว่าสำหรับโน้ตบุ๊กชนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ส่วนมากถึง 99.99% จะมีความละเอียดเพียง 1366 x 768 พิกเซลเท่านั้น แต่ในตัวของ Zenbook UX31 ต้องขอนำเสนอว่ามีความละเอียดสูงถึง 1600 x 900 พิกเซลด้วยกัน แน่นอนมันทำให้มีพื้นที่การใช้งานและความคมชัดที่มากกว่าหน้าจอขนาด 13.3 นิ้วของโน้ตบุ๊กทั่วไป อีกทั้งยังต้องบอกว่าความละเอียดระดับนี้ของ Zenbook UX31 นั้นมีความเหนือกว่า MacBook Air ที่มีความละเอียดที่ 1440 x 900 พิกเซลซะด้วย อย่างไรก็ตามหากมองอีกด้านของความละเอียดหน้าจอที่สูง จะส่งผลให้ขนาดตัวอักษรเล็กลง จนบางทีเราเองต้องใช้ตาเพ่งมากเกินไป หรือต้องขยายดูทุกครั้งไป และข้อสังเกตอีกอย่างก็คือ Zenbook UX31 ไม่ได้ใช้พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่ Asus Eee Pad Transformer ใช้อยู่ ทำใหเเรื่องความสวยงามของสีสันงานนี้คงจะสู้กันไม่ได้
ที่น่าสนใจอีกอย่างของ Asus Zenbook UX31 ก็คือได้เลือกใช้งานลำโพงคุณภาพสูงอย่าง Bang & Olufsen’s ICEpower technology มาติดตั้งลงในเครื่อง Ultrabook เครื่องนี้ ที่ถึงแม้ว่าตัวลำโพงเองจะถูกซ่อนไว้ใต้เครื่อง แต่ด้านพลังเสียงก็จัดได้ว่ามีคุณภาพน่าประทับใจมากๆ โดยหากใครที่ชอบฟังเพลงประจำอยู่แล้วล่ะก็ Zenbook UX31 ตัวนี้ก็น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแน่นอน
สเปกและประสิทธิภาพ
ในส่วนของสเปก Asus Zenbook UX31 ตัวเริ่มต้นจะมาพร้อมกับชิประมวลผล Intel Core i5 ความเร็ว 1.7GHz แรมติดเครื่องถอดเปลี่ยนไม่ได้ขนาด 4 GB พร้อมกับฮาร์ดดิสก์แบบ SSD จาก ADATA ขนาด 128GB ที่มีความเร็วในการเขียน – อ่านที่สูงสุดถึง 550 MB/s ซึ่งเมื่อเทียบกับ Acer Apire S3 แล้ว ที่รุ่นเริ่มต้นเป็นเพียงฮาร์ดดิสก์ขนาด 320 GB แบบมี SSD ขนาด 20GB ติดมาด้วย เพื่อใช้ในการติดตั้งระบบปฏิบัติการ ที่มีความเร็วในการเขียน – อ่าน เพียง 75 MB/s - 80 MB/s และใช้เวลาเปิดเครื่องที่ 45 วินาที แตกต่างจาก UX31 ที่ใช้เวลาในการเปิดเครื่องเพียง 16 วินาที เท่านั้น แน่นอนว่าเรื่องการตื่นจาก Sleep ด้วยเวลา 2วินาที ก็สามารถทำได้เช่นกันเหมือนกับ S3 และจาการทดสอบใช้งาน Asus Zenbook UX31 ก็มีทั้งความเร็วและตัวเครื่องไม่ร้อน ถึงแม้ว่าจะลองเปิดไฟล์ความละเอียดสูง 1080p ด้วยโปรแกรม Quicktime ก็ตาม
สำหรับการทดลองเปิดด้วยโปรแกรมทดสอบต่างๆ ถึงแม้ว่าอาจจะเชื่อถือได้ไม่ 100% แต่ก็บอกถึงอะไรหลายๆ อย่างได้
ที่จากตารางด้านบนจะแสดงถึงผลคะแนนต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบกับ Acer Aspire S3 และ MacBook Air รวมไปถึงโน้ตบุ๊กสุดบางอย่าง Samsung Series 9 อีกทั้งยังบอกถึงอัตราการใช้งานของแบตเตอรี่ของแต่ละเครื่อง ที่เมื่อดูจากผลวัดต่างๆ แล้ว Asus Zenbook UX31 ทำออกมาได้ค่อนข้างดีและน่าประทับทีเดียว
สรุปการใช้งาน
Asus Zenbook UX31 ประกอบไปด้วย 3 รุ่นหลักๆ ด้วยกัน คือราคาเริ่มต้นเพียง 1,099 เหรียญสหรัฐ กับในสเปก Intel Core i5-2557M แรม 4GB ความจุก SSD 128GB SATA III ถัดมากับราคา 1,349 เหรียญสหรัฐ กับสเปกอื่นๆ ที่เหมือนกัน แต่ต่างกันเพียงความจุขนาด 256GB ที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น สุดท้ายกับรุ่นสูงสุดราคา 1,449 เหรียญสหรัฐ ที่นอกเหนือจะได้ SSD ขนาด 256GB แล้ว ยังจะมาพร้อมกับสเปก Intel Core i7-2677M และแรมขนาด 4GB ที่เท่าๆ กันทั้ง 3 รุ่น
ที่ถึงแม้ว่าราคาของ Asus Zenbook UX31 จะไม่สามารถทำราคาได้ต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ อย่างที่ Intel คนเริ่มต้นโครงการ Ultrabook บอกไว้ได้ เหมือนที่ Acer Aspire S3 ทำได้ แต่อย่างไรก็ต้องบอกว่า UX31 ด้านสเปกกับราคาก็ยังดูคุ้มค่ากว่า MacBook Air 13 ในรุ่นที่ใกล้เคียงกันอย่าง Core i5 แรม 4GB SSD 128GB และความละเอียดหน้าจอที่ 1440 x 900 พิกเซล ด้วยราคาที่ถูกกว่าถึง 200 เหรียญสหรัฐ รวมไปถึงในเรื่องของงานประกอบการและดีไซน์ก็โดดเด่นไม่แพ้คู่แข่งตัวอื่นๆ อีกด้วย
ในส่วนของการคีย์บอร์ดและทัชแพดของ Asus Zenbook UX31 ก็สามารถทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีพอร์ตความเร็วสูงอย่าง Thunderbolt มาให้ แต่ก็มี mini-HDMI และ mini-VGA มารองรับที่สามารถใช้งานได้ไม่แพ้กัน ส่วนถ้าใครต้องการพอร์ต HDMI ขนาดมาตรฐานจริงๆ อย่างที่มีใน Toshiba และ Lenovo ก็ช่วยลืมๆ มันไปก่อนก็แล้วกัน เรียกได้ว่า Asus Zenbook UX31 ที่ถือได้ว่าเป็น Ultrabook อีกตัวในตลาดขณะนี้ มีความน่าสนใจจับจองมาใข้งานเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าราคาอาจจะสูงกว่า Acer Aspire S3 อยู่เล็กน้อย แต่ก็ต้องจอบอกว่าคุ้มค่าน่าลงทุนมากกว่า ด้วย SSD แบบ SATA III และระยะการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานยิ่งกว่า รวมไปถึงประสิทธิภาพที่สูงกว่า โดยต้องบอกว่าทั้งหมดนี้มีผลในการตัดสินใจซื้อ Ultrabook ซักเครื่องอยู่พอสมควร
คงเห็นหน้าคาดตากันมาบ้างแล้วกับ Ultrabook ตัวแรกจากค่ายไต้หวันยักษ์ใหญ่อย่าง Asus ในชื่อตระกูลว่า “Zenbook” ที่ได้พร้อมส่งมาทั้ง 2 ขนาดหน้าจอเลย ในรุ่น UX21 ที่มีขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้ว กับน้ำหนัก 1.08 กิโลกรัม และ UX31 กับขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว กับน้ำหนัก 1.31 กิโลกรัม โดยก่อนหน้านี้ทาง Acer ห็ได้เปิดตัว Aspire S3 ออกมาแล้วเช่นกัน ในราคาจำหน่ายในไทยเริ่มต้นที่ 27,900 บาท
มาในตอนนี้ทาง Asus ก็พร้อมที่จะเปิดราคากับสเปกเต็มๆ เป็นครั้งแรกแล้วเช่นกัน ซึ่งในส่วนของ UX21 ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ $999 หรือคิดเป็นไงเงินก็ตกประมาณ 30,000 บาทพอดี และ UX31 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,099 คิดเป็นเงินไทยได้ 33,000 บาท ซึ่งสำหรับราคาเริ่มต้นที่ Ultrabook ของ Asus มีราคาแพงกว่าของ Acer น่าจะมาจากการที่ Asus เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์ที่เป็น SSD และซีพียู Core i5 ต่างจาก Acer ที่จะเป็นแบบจานแม่เหล็กไฮบริด SSD และซีพียู Core i3
สำหรับตัวตัวเครื่องของ Ultrabook – Asus Zenbook นั้น วัสดุหลักจะเป็นโลหะอะลูมิเนียมขัดเงาเกือบทั้งหมด กับความบางเฉียบเพียง 0.12 – 0.67 นิ้วเท่านั้น ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5, i7 แบบ ultra-low voltage เจนเนอเรชั่นที่ 2, แรมขนาด 4GB, USB 3.0, Bluetooth 4.0, SATA III SSD (128GB – 256GB), ลำโพงสเตอริโอคุณภาพสูงจาก Bang & Olufsen, ใช้คีย์บอร์ดแบบ Chiclet, Trackpad ขนาดใหญ่แบบกระจก, รวมไปถึง micro HDMI และ mini DisplayPort มาให้ พิเศษสำหรับรุ่น UX31 จะมี SD Card Reader ติดมาในเครื่องให้อีกด้วย
นอกจากนั้นกับสเปกที่น่าสนใจ UX21 จะมาพร้อมความละเอียดหน้าจอ 1366 x 768 พิกเซล และ UX31 จะมีความละเอียดถึง 1600 x 900 พิกเซล แน่นอนมาตัวเครื่องได้มีการติดตั้ง Windows 7 มาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมงสำหรับ UX21 และ 7 ชั่วโมงสำหรับ UX31
งานนนี้ใครรอสอย Ultrabook ของ Asus อยู่ก็เก็บตังค์รอได้เลย โดย UX21 จะมี 2 สเปกให้เลือก และ UX31 จะมี 3 สเปกให้เลือก ซึ่งสเปกที่มีราคาสูงที่สุดจะอยู่ที่ $1449 หรือประมาณ 43,500 บาท แต่ก็คิดว่าราคาเปิดในไทยมาน่าจะแพงกว่าของ Acer อย่างแน่นอนในสเปกที่เท่ากัน ที่อย่างน้อยๆ น่าจะมีราคาสูงกว่าประมาณไม่เกิน 5,000 บาท เอาเป็นว่าไม่รีบก็รอติดตามกันได้เรื่อยๆ หรือถ้าใครลังเลกับ Acer Aspire S3 อยู่ ขอบอกว่าซื้อ MacBook Air ไปเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องคิดมาก
จากไฟล์เอกสารแถลงผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของ Asus ได้บอกถึงการมาอย่างเป็นทางการของ Asus Eee Pad Transformer Prime ที่ถือได้ว่าเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของโลกที่ใช้ชิประมวลผล 4 แกน โดยในเอกสารนั้นได้ได้แจ้งเอาไว้ว่าจะพร้อมเปิดตัวในวันที่ 9 พฤศิจิกายนที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน รวมไปถึงมีแนวโน้มว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 จะมีแท็บเล็ตที่เป็น Android อีก 2 ตัวให้ได้เห็นกัน ซึ่งจากการคาดการณ์น่าจะเป็นในส่วนของ Asus Eee Pad MeMO กับ Asus Padfone
นอกเหนือจากนั้นแล้วส่วนของตลาดของแท็บเล็ต Windows 8 ที่จะมีมาในอนาคต ทาง Asus ได้มีการวางแผนจะเปิดตัวจำนวน 2 รุ่นด้วยกัน ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2012
สำหรับในส่วนของราคาเเท็บเล็ตเครื่องเเรกที่ใช้ NVIDIA Tegra 3 คาดว่าจะมีราคาเท่ากับ Eee Pad Transformer ตัวเเรกอีกด้วย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,000 บาทเท่านั้น เมื่อคิดเป็นเงินไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น